ยืนหยัดความมั่นคงทางธุรกิจของชาวจีน

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  325 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยืนหยัดความมั่นคงทางธุรกิจของชาวจีน

ยืนหยัดความมั่นคงทางธุรกิจของชาวจีน

            ตอกย้ำความสำเร็จทางเศรษฐกิจจีนอีกครั้งกับรายงานล่าสุดของ เครดิท สวิส (ซีเอส) ระบุบว่า ปัจจุบันประชากรเศรษฐีชาวจีนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแซงหน้าประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยเป็นจำนวน 10 % จากประชากรทั้งหมดของชาวจีน หรือราว ๆ 100 ล้านคน

            บุคคลที่สามารถขึ้นมาเป็น 10 % ของบุคลมหาเศรษฐีชาวจีนได้นั้นต้องมีทรัพย์สินรวมกันมากกว่า 3.3 ล้านบาท และนอกจากนี้ประเทศจีนยังมีจำนวนประชากรทั้งหมด 4.4 ล้านคน ที่มีทรัพย์สินรวมทั้งหมดมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 3 หมื่นกว่าล้านบาทไทย ในส่วนของความมั่งคั่งของประชาชนประเทศสหรัฐอเมริกามีความมั่งคั่งเฉลี่ยราว ๆ 13 ล้านบาทไทย ซึ่งมากกว่าประชาชนในประเทศจีนที่มีความมั่งคั่งเฉลี่ยราว 1.77 ล้านบาทไทยเพียงเท่านั้น

            แต่อีกหนึ่งสิ่งที่สาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับเหล่านักลงทุนในการค้าร่วมกับประเทศตนได้นั้นก็คือ จากรายงานของสถาบันวิจัยหูหรัน เผยว่า ในปัจจุบันธุรกิจในประเทศจีนมี สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น มากที่สุดในโลก และนำหน้าสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 206 บริษัท ต่อ 203 บริษัท

            ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกับคำว่า สตาร์อัพระดับยูนิคอร์น เริ่มมีการใช้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2013 โดย คุณ ไอลีน ลี ได้ใช้เปรียบเทียบกับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทางด้านระดมทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือราว ๆ 3 หมื่นกว่าล้านบาทไทย ว่าเหมือนกับยูนิคอร์นสัตว์ในเทพนิยายที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมาก ดังนั้นธุรกิจใดที่เริ่มต้นขึ้น และสามารถสร้างระดมทุนได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาห์สหรัฐได้จะถือว่าเป็น บริษัทสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่มากในการลงทุนร่วมกับบริษัทดังกล่าว

            ทั้งนี้มีอยู่ 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นได้ คือ 1.เทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน 2. ตลาดลงทุนในสหรัฐฯ มีดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนจึงนำเงินมาลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพ และ 3. คือเศรษฐกิจของทวีปเอเชียอยู่ในจังหวะขาขึ้น ซึ่งในประเทศจีนบริษัทที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของบริษัทสตาร์มอัพระดับยูนิคอร์น และมีมูลค่ามากที่สุด คือ แอนต์ ไฟแนนเชียล บริษัทในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 4.5 ล้านล้านบาทไทย โดยผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันดีก็คือแอปพลิเคชัน อาลีเพย์ ต่อมาบริษัทที่เป็นอันดับ 2 ของจีนคือ บริษัท ไบต์แดนซ์ เจ้าของแพลตฟอร์มวิดีโอแชร์ริงชื่อดัง ติ๊กต๊อก โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือราว ๆ 2.2 ล้านล้านบาทไทย และอันดับ 3 เป็น บริษัท ดีดี้ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไรด์-แชร์ริง เหมือนกับอูเบอร์

            และแม้ว่าประเทศจีนจะได้รับพิษจากสงครามการค้าระหว่างประเทศ และการประทวงในเกาะฮ่องกงค่อนข้างมาก แต่เศรษฐกิจของจีนกลับมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และสร้างความเข้มแข็งให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดโอกาสที่จะทำการศึกษา และเริ่มทำธุรกิจการค้ากับประเทศจีน ซึ่งถ้าหากว่าคุณต้องการผู้ช่วยเรื่องการติดต่อประสานงานจัดหา สั่งซื้อ และนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศจีนมายันประเทศไทยก็สามารถติดต่อมาที่ บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด https://www.thaihua4u.net/ หรือโทร 083-0904009 บริการอย่างมีคุณภาพถูกต้องตามกฎหมาย

 

แหล่งอ้างอิง

College of Innovative Business and Accountancy Dhurakij Pundit University, Unicorn ในวงการสตาร์ทอัพคืออะไร?, วันที่ 4 กรกฎาคม 2018. จาก https://ciba.dpu.ac.th/unicorn-ในวงการสตาร์ทอัพคืออะ/

ไทยรัฐ ออนไลน์, จีนปาดหน้าขึ้นแท่นเป็นบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่าสหรัฐอเมริกา โดยสตาร์ทอัพยูนิคอร์นส่วนใหญ่กระจุกตัวในจีนและสหรัฐอเมริกา, วันที่ 24 ตุลาคม 2562. จาก https://www.thairath.co.th/news/tech/1689353

Brand Inside, จำนวนคนรวย “ชาวจีน” แซงหน้า “ชาวอเมริกัน” เป็นครั้งแรก, วันที่ 24 ตุลาคม 2019. จาก https://brandinside.asia/china-wealth-americans/

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้