สัมพันธ์ไทย-จีน ในการลงทุนระหว่างประเทศ

Last updated: 6 พ.ย. 2562  |  371 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สัมพันธ์ไทย-จีน ในการลงทุนระหว่างประเทศ

สัมพันธ์ไทย-จีน ในการลงทุนระหว่างประเทศ

            ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 2 ประเทศต่างมีความสัมพันธ์อันดีกันอย่างช้านาน ทั้งในด้านการทูต ด้านการท่องเที่ยว และด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ ทั้ง 2 ก็มีความเกื้อหนุนและส่งเสริมการค้าร่วมกันมาตลอดเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี อีกทั้งจีนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดจนสามารถขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกเป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเพียงเท่านั้น

            แต่เนื่องด้วยพิษทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้าของสหรัฐกับจีน ทำให้เมื่อปี พ.ศ. 2561 เหล่านักลงทุนเริ่มมีการย้ายฐานการผลิตจากจีนและฮ่องกงจำนวน 168 โครงการ ได้เริ่มทำเรื่องย้ายแหล่งการผลิตไปยังประเทศอื่นในแทบอาเซียน ซึ่งหนึ่งในประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากก็คือ ประเทศไทย

            เหล่านักลงทุนจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ และกวางโจว หันมาให้ความสนใจและหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นถึง 40 % และยังมีแนวโน้วที่จะมีโอกาสให้ความสนใจกับประเทศไทยที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียแค่เหล่านักลงทุนชาวจีนเท่านั้น แต่บริษัทของชาติอื่นในจีนก็สนใจการย้ายฐานการผลิตมาไทยเช่นกันอย่างไต้หวันและเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบที่จะเกิดจากการผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐ

            สาเหตุที่เหล่าบริษัท และนักลงทุนจากให้ความสนใจกับการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเนื่องจาก ไทยมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศของกลุ่ม CLMVT ที่ประกอบไปด้วย 5 ประเทศในแถบลุ่มแม่โขงได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และไทย ซึ่งรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาระบบร่วมกัน และทำให้การค้าระหว่างเป็นประเทศพัฒนายิ่งขึ้นไป เหล่านานานักลงทุนในประเทศจีนจึงให้ความสนใจในกลุ่มการค้า CLMVT เป็นอย่างมากเพราะเนื่องจากทั้ง 5 ประเทศมีลักษณะของวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน มีค่าแรงขั้นต่ำที่ถูกมากแต่กลับให้ผลผลิตที่ได้คุณภาพ

            ข้อได้เปรียบของประเทศไทยในกลุ่ม CLMVT คือการที่ทั้ง 4 ประเทศต่างให้การยอมรับและความเชื่อถือในคุณภาพของสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยว่า ได้รับมาตรฐานสมกับราคาจนได้รับเป็นศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ หรืออุตสาหกรรมอาหารเพื่อต่อยอดการส่งออก อีกทั้งในประแถบเอเซียนมีเพียงประเทศไทย และประเทศมาเลเซียนเท่านั้น ที่ให้ความสำคัญและมีความโดดเด่นของกฎหมายการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา จึงทำให้เหล่าบริษัทและนักลงทุนในประเทศจีนต่างให้ความสนใจที่จะมาลงทุนทำการผลิตสินค้าในประเทศมากยิ่งขึ้น

            ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 – 25 ตุลาคม พ.ศ. 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลไทยนำหน่วยงานของภาครัฐไทยเดินทางไป ณ มณฑลกวางตุ้ง และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อชักชวนเหล่านักลงทุนจากจีนมาลงทุนที่ไทย โดยกลุ่มบริษัทที่จะพบหารือนั้นล้วนเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์เครือข่ายและโทรคมนาคม และการพัฒนาบุคลากร

            ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีหากคุณกำลังมีความคิด หรือแผนการที่จะทำการติดต่อด้านธุรกิจการค้ากับประเทศจีนทั้งในด้านนำเข้า และด้านการผลิต หากว่าคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการติดต่อผู้ผลิตจากฝั่งประเทศจีนก็สามารถติดต่อมาทางที่เรา บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด https://www.thaihua4u.net/ หรือโทร 083-0904009 ทางเรามีพนักงานค่อยให้ความช่วยเหลือคุณในการติดต่อจัดหา สั่งซื้อ และนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนจัดส่งถึงคุณ โดยไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ

 

แหล่งอ้างอิง

คม ชัด ลึก, สานสัมพันธ์ไทย-จีนเดินหน้าชวนการลงทุน มณฑลกวางตุ้ง-ฮ่องกง, วันที่ 22 ตุลาคม 2562. จาก https://www.komchadluek.net/news/economic/394671

กรุงเทพธุรกิจ, ทุน“ฮ่องกง”หนีวิกฤติ แห่เข้าลงทุนไทย, วันที่ 22 ตุลาคม 2562. จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/851650

กรุงเทพธุรกิจ, C-L-M-V-T สัมพันธ์เพื่อน สู่..สัมพันธ์ค้า, วันที่ 22 ตุลาคม 2562. จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/785272

ประชาชาติธุรกิจ, CLMVT Forum 2019 ศูนย์กลางห่วงโซ่ยุคใหม่สู่ฮับแห่งเอเชีย, วันที่ 28 มิถุนายน 2562. จาก https://www.prachachat.net/columns/news-344119

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้