การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ไม่มี ‘ทรัมป์’

Last updated: 7 พ.ย. 2562  |  319 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ไม่มี ‘ทรัมป์’

การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ไม่มี ‘ทรัมป์’

            ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ที่ผ่านมา ได้รับเกียรติจากผู้นำในประเทศกลุ่มอาเซียน และจากประเทศภาคีเข้ามาร่วมงาน ณ ประเทศไทย มีเพียงแต่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ส่ง โรเบิร์ท โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เป็นทูตพิเศษมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

            ซึ่งการกระทำดังกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้นำให้กลุ่มประเทศอาเซียนเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการกระทำผิดธรรมเนียมทางการทูตที่เรียกว่า ‘เคาน์เตอร์พาร์ทส’ เป็นอย่างมาก ทำให้ 7 ใน 10 ประเทศอาเซียนบอยคอตการกระทำดังกล่าว โดยส่งตัวแทนระดับรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมในครั้งแทน มีเพียง 3 ประเทศเท่านั้นที่ส่งระดับผู้นำเข้าร่วมการประชุม ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

            พฤติกรรมเบี้ยวการประชุมกับกลุ่มอาเซียนของ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นถือเป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งแรกได้ส่งตัวแทนเป็น ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาร่วมประชุมแทนจึงไม่ได้สร้างความคับข้องใจให้แก่กลุ่มอาเซียนมากนั้น แต่ในครั้งนี้กลับส่ง โรเบิร์ท โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นตัวแทน ซึ่งเมื่อเทียบลำดับขั้นแล้วจะประมาณได้กับปลัดกระทรวงของประเทศไทย อีกทั้งยังได้ฝากสารเชิญผู้นำอาเซียนไปวอชิงตันในไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อการประชุมสุดยอดครั้งพิเศษ การกระทำดังกล่าวย่อมถูกตีความว่าไม่ให้เกียรติต่อเจ้าภาพและผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

            โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยแถลงว่าเป็นการประชุมตามปกติของอาเซียนที่จะมีระดับนายกรัฐมนตรี 3 ประเทศเป็นตัวแทน เรียกว่าอาเซียนทรอยก้าหรือ ‘สามเส้า’ โดยมีนายกฯ สามประเทศของอาเซียนเป็นหลักในการประชุมครั้งนี้ ทางฝ่ายของสหรัฐฯ เองมีท่าทีไม่พอต่อใจพฤติกรรมดังกล่าวของผู้นำทั้ง 7 ประเทศอาเซียนที่ได้แสดงออกมา โดยนักการทูตสหรัฐรายหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าว ว่า "เรากังวลเป็นอย่างมากกับการตัดสินใจดังกล่าว" แปลเป็นภาษาคนทั่วไปก็คือ "เราไม่พอใจที่ผู้นำอาเซียนเมินเรา" อีกทั้งในการประชุมยังมีท่าทีใส่ร้ายสาธารณรัฐประชาชนจีนเกี่ยวกับพื้นที่ทรัพยากรธรรมาชาติในบริเวณทะเลจีนใต้ และมีข้อความเชิงกล่าวหาว่าจีนเป็นพวกลัทธิจักรวรรดินิยมอีกด้วย

            เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หมดความสำคัญในสายตาสหรัฐไปพักใหญ่แล้วตั้งแต่ในช่วงของ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จนกระทั่งถึงสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ในช่วงแรกมีความคาดหวังกันว่าทรัมป์จะกลับมาสนใจอาเซียนอีก เพราะปล่อยให้จีนเข้ามาสนิทสนมกับภูมิภาคนี้นานเกินไปแล้ว แต่การกระทำในครั้งนี้เป็นสิ่งยืนยันความเมินเฉยของสหรัฐฯ และยิ่งทำให้จีนสามารถซื้อใจของอาเซียนไปได้อย่างง่ายดายผูกมิตรทางยุทธศาสตร์ด้านการค้ากันมากยิ่งขึ้น

            จากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกในอนาคตข้างหน้าไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้ประกอบการในไทยที่กำลังมีแผนการเริ่มธุรกิจ หรือขยายกิจการคงต้องทำการศึกษาและวางแผนการดี ๆ และถ้าหากต้องการผู้ช่วยในการติดต่อประสานงานจัดหา สั่งซื้อ และนำเข้าผลิตภัณฑ์สินค้าจากประเทศจีน ก็สามารถติดต่อมาได้ที่ บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด https://www.thaihua4u.net/ หรือโทร 083-0904009 ทางเรามีบริการนำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย

 

แหล่งอ้างอิง

โพสต์ ทูเดย์, ทรัมป์เชิญผู้นำอาเซียนประชุมสุดยอดพิเศษ หลังเบี้ยวอาเซียนซัมมิต, วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562. จาก https://www.posttoday.com/world/605317

โพสต์ ทูเดย์, ทรัมป์คิดจะใช้อาเซียนสู้จีน แต่ดูถูกอาเซียนเกินไป, วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562. จาก https://www.posttoday.com/world/605487

ไทยโพสต์, เมื่ออาเซียน ‘เอาคืน’ ทรัมป์!, วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562. จาก https://www.thaipost.net/main/detail/49602

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้