Last updated: 1 พ.ย. 2562 | 1290 จำนวนผู้เข้าชม |
ตลาดคนโสด กลุ่มเป้าหมายทางการค้าที่มีอำนาจสูงสุด
จากการสำรวจกลุ่มประชากรคนเหงาในประเทศไทยพบว่ามีจำนวนประมาณ 26.57 ล้าน ที่รู้สึกว่าตนเองมีความเหงาเท่าอวกาศ และใช้เวลาส่วนใหญ่ของตนเองไปกับการท่องโลกออนไลน์ เพื่อติดต่อสื่อสารกับสังคมภายนอก โดยโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มคนเหงานั้นก็คือ
- อันดับที่ 1 เฟสบุ๊ค คิดเป็นร้อยละ 36.7
- อันดับที่ 2 ไลน์ คิดเป็นร้อยละ 33
- อันดับที่ 3 อินสตราแกรม คิดเป็นร้อยละ 16.7
- อันดับที่ 4 ทวิตเตอร์ คิดเป็นร้อยละ 11.9
ซึ่งประชากรไทยกลุ่มคนเหงาหนึ่งในนั้นประกอบด้วย กลุ่มประชากรที่เลือกอยู่เป็นโสดมากกว่าการมีคู่ครอง ด้วยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ไม่ค่อยดีนัก การมีครอบครัวอาจเป็นการสร้างภาระทางด้านค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น กับอีกส่วนหนึ่งมาจากไม่สามารถหาคู่ครองที่เหมาะสมกันทั้งในด้านของฐานะ รสนิยม และไลฟ์สไตล์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ประชากรชาวไทยที่มีช่วงอายุระหว่าง 25 ปี - 45 ปี ส่วนมากเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบโสด ๆ ของตนเองต่อไป
ประชากรคนโสดจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะเนื่องกลุ่มคนเหล่านี้มีอำนาจการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สูงมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ เฉลี่ยถึงร้อยละ 30 มีพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อสินค้าที่ไม่เรื่องมาก เพราะเนื่องจากไม่มีภาระค่าใช้จ่ายดูแลครอบครัว หรืออื่น ๆ เพิ่มเติมมากนั้น จึงสามารถนำเงินที่หามาได้ใช้ไปกับการซื้อสินค้าประเภท เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ฯลฯ รวมไปถึงบริการด้านการเงินต่างๆ เพื่อการดูแลตนเองได้มากขึ้น โดยจากการสำรวจพบว่ากลุ่มประชากรสาวโสดจะให้ความสนใจอย่างมากกับสินค้าที่ออกมาใหม่ตามกระแสอย่างมาก ส่วนในกลุ่มประชากรหนุ่มโสดจะให้ความสนใจในสินค้าที่เพิ่มภาพลักษณ์ทางสังคมให้กับตนเอง
สมชาติ ลีลาไกรศร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครีเอทีฟ แมตเตอร์ส จำกัด ได้แบ่งระดับความโสด และไลฟ์สไตล์การเลือกซื้อสินค้าออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
1. โสดตอนต้น เป็นกลุ่มคนโสดที่พึ่งเริ่มต้นทำงานได้ไม่นาน อายุยังไม่มากนั้น มักเป็นกลุ่มที่สนุกกับการสรรหาความสุขให้ตัวเอง โดยยังไม่ทันได้คิดวางแผนระยะยาว
2. โสดตอนปลาย คนโสดในระดับนี้จะเริ่มมองหาและวางแผนความมั่นคงให้กับชีวิต เพื่อให้อยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุข มีเงินทองใช้ดูแลตัวเองยามบั้นปลาย
ลักษณะการใช้จ่ายของทั้ง 2 กลุ่มนี้ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ช่วงวัยที่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ อำนาจในใช้จ่ายเงินที่สูง และการเลือกซื้อสินค้าที่ดูแลตัวเองมากขึ้น เช่น สินค้าแฟชั่น เพื่อตอบสนองความสุขของตนเอง และดูแลสุขภาพ อีกทั้งพบความการโปรโมทสินค้าและบริการเกี่ยวกับความเหงาจะสามารถดึงดูดความสนใจของคนกลุ่มนี้ได้ถึงร้อยละ 50 แต่ต้องระวังในรูปแบบการสื่อสารให้ดี เพราะเนื่องจากความเหงาเป็นอารมณ์ทางลบ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีได้
ในการลงทุนแต่ละครั้งควรศึกษากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี รวมถึงทำการศึกษาแหล่งผลิตสินค้าที่มีต้นทุนถูกแต่ได้คุณภาพดีทุกครั้ง ถ้าหากต้องการผู้ช่วยในด้านของการนำเข้าสินค้าจากจีนที่มีบริการมาตรฐาน และราคาเป็นกันเองก็สามารถติดต่อมาทางที่ บริษัท ไทยฮัวโฟร์ยู จำกัด https://www.thaihua4u.net/ หรือโทร083-0904009 ทางเรามีพนักงานค่อยช่วยเหลือในด้านการจัดหา สั่งซื้อ และนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนส่งถึงหน้าบ้านคุณ
แหล่งอ้างอิง
เส้นทางเศรษฐีออนไลน์, “คนโสด” ไม่โดดเดี่ยว สารพัดแบรนด์แห่ผุดสินค้าไซซ์เล็ก-บริการเอาใจ, วันที่ 26 ตุลาคม 2561. จาก https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_93280
กรุงเทพธุรกิจ, ส่องเทรนด์ผู้บริโภคคนเหงา เป้าหมายใหม่นักการตลาด, วันที่ 9 พฤษภาคม 2562. จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/834614
SME Thailand Club, มัดใจลูกค้าคนโสด กำลังซื้อที่ทรงอิทธิพลของยุคนี้, วันที่ 7 พฤศจิกายน 2017. จาก https://www.smethailandclub.com/marketing-1739-id.html
Brand Inside, จับตากลุ่มคน Single Working พลังโสดกำลังซื้อสูง กลุ่มเป้าหมายใหญ่วงการรีเทล, วันที่ 21 มีนาคม 2018. https://brandinside.asia/single-working-target-group-retail/
Positioning, ปั้นแบรนด์แบบไหนให้พิชิตใจคนโสด VS มีครอบครัว, วันที่ 24 เมษายน 2019. จาก https://positioningmag.com/1226078
Salary Investor, เผยสถิติหนุ่มสาวเอเชียยุคใหม่ พอใจกับการใช้ชีวิตโสดและไม่นิยมมีลูก, วันที่ 20 กรกฎาคม 2019. จาก http://salaryinvestor.com/inspire/single-problems/
28 ต.ค. 2563
25 พ.ย. 2562
25 พ.ย. 2562